สถานที่ตั้ง
วัดฟ่อนสร้อยตั้งอยู่เลขที่ 59 ถนนพระปกเกล้า ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติความเป็นมา
วัดฟ่อนสร้อยสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๐๓๑ จากการศึกษาโครงนิราศหริภุญชัย โดยคุณวิจิตร ยอดสุวรรณ ทำให้ทราบว่าที่ตั้งของวัดฟ่อนสร้อยในปัจจุบันนี้ไม่ใช่ที่ตั้งดั้งเดิมในอดีต วัดฟ่อนสร้อยเดิมซึ่งร้างไปแล้วนั้นอยู่ห่างไปทางทิศใต้เล็กน้อย คำว่า “ฟ่อนสร้อย” สันนิษฐานว่ามาจากขุนนางที่มียศว่า “พันสร้อย” ต่อมาจึงเพี้ยนกลายเป็น “ฟ่อนสร้อย”
โบราณวัตถุสถาน
1. วิหารหลวงวัดฟ่อนสร้อย ลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนผสมไม้ หลังคาซ้อนชั้น เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของสถาปัตยกรรมไทยในอดีต โดยเฉพาะลักษณะสถาปัตยกรรมล้านนาและสุโขทัย บันไดทางขึ้นขนาบด้วยนาคสองตัว หน้าบันประดับด้วยลวดลายก้านกดปิดทองบนพื้นสีเขียว ละเอียดอ่อนช้อย ด้านข้างพระวิหารมีมุขทางเข้าอีกทางหนึ่ง มีไว้สำหรับพระสงฆ์เข้าออกเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เมืองเชียงใหม่
2. พระเจดีย์ประธานของวัด ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงปราสาทแบบล้านนา มีสัดส่วนงดงามหมดจด องค์เจดีย์ทั้งสี่ด้านมีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปยืน เหนือขึ้นไปเป็นองค์ระฆังสีทองสุกใส ยอดพระเจดีย์ประดับ
วัดฟ่อนสร้อยตั้งอยู่เลขที่ 59 ถนนพระปกเกล้า ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติความเป็นมา
วัดฟ่อนสร้อยสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๐๓๑ จากการศึกษาโครงนิราศหริภุญชัย โดยคุณวิจิตร ยอดสุวรรณ ทำให้ทราบว่าที่ตั้งของวัดฟ่อนสร้อยในปัจจุบันนี้ไม่ใช่ที่ตั้งดั้งเดิมในอดีต วัดฟ่อนสร้อยเดิมซึ่งร้างไปแล้วนั้นอยู่ห่างไปทางทิศใต้เล็กน้อย คำว่า “ฟ่อนสร้อย” สันนิษฐานว่ามาจากขุนนางที่มียศว่า “พันสร้อย” ต่อมาจึงเพี้ยนกลายเป็น “ฟ่อนสร้อย”
โบราณวัตถุสถาน
1. วิหารหลวงวัดฟ่อนสร้อย ลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนผสมไม้ หลังคาซ้อนชั้น เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของสถาปัตยกรรมไทยในอดีต โดยเฉพาะลักษณะสถาปัตยกรรมล้านนาและสุโขทัย บันไดทางขึ้นขนาบด้วยนาคสองตัว หน้าบันประดับด้วยลวดลายก้านกดปิดทองบนพื้นสีเขียว ละเอียดอ่อนช้อย ด้านข้างพระวิหารมีมุขทางเข้าอีกทางหนึ่ง มีไว้สำหรับพระสงฆ์เข้าออกเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เมืองเชียงใหม่
2. พระเจดีย์ประธานของวัด ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงปราสาทแบบล้านนา มีสัดส่วนงดงามหมดจด องค์เจดีย์ทั้งสี่ด้านมีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปยืน เหนือขึ้นไปเป็นองค์ระฆังสีทองสุกใส ยอดพระเจดีย์ประดับ