สถานที่ตั้ง
วัดเม็งรายตั้งอยู่ที่ ถนนราชดำเนิน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติความเป็นมา
วัดพระเจ้าเม็งรายเดิมชื่อ "วัดคานคาด" คงจะเพี้ยนมาจากคำว่า กาละก้อด หรือได้มาจากไม้คานหามพระพุทธรูปมาคาด หรือ กร่อน จนเกือบจะนำมาใช้หามพระพุทธรูปต่อไปอีกไม่ได้ เลยสร้างวัดขึ้นตรงนั้น แล้วตั้งชื่อว่า วัดคาดคอด อดีตพระ อ.การกุย ทูลสนโย เจ้าอาวาส อธิบายว่า วัดพระเจ้าเม็งรายนี้ นอกจากจะเรียกชื่อวัดว่า วัดกาละก้อด แล้ว ยังเรียกชื่อ "วัดศรีสร้อยท้าเจ่ง"
วัดพระเจ้าเม็งราย ตามประวัติศาสตร์ สันนิษฐานว่าเป็นพระอารามหลวงแห่งที่สาม ที่พญามังรายทรงสร้างขึ้น ปัจจุบันเหลือเพียง พระพุทธรูปยืนองค์เดียวเท่านั้น เรื่องราวของพระพุทธรูปองค์นี้ปรากฏในตำนานเมืองเชียงใหม่ และ ในพงศาวดารโยนก
โบราณวัตถุสถาน
1. พระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ มีชื่อเรียกว่า พระเจ้าค่าคิงพญามังราย สูงประมาณ 540 เซนติเมตร เป็นพระพุทธรูปยืนสมัยต้นเชียงใหม่เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญองค์หนึ่ง
2. เจดีย์ทรงปราสาท มีซุ้มพระพุทธรูปยืนทั้ง 4 ด้าน
3. พระวิหารเก่า ที่เป็นที่ประดิษฐาน พระเจ้าค่าคิงพญามังราย
วัดเม็งรายตั้งอยู่ที่ ถนนราชดำเนิน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติความเป็นมา
วัดพระเจ้าเม็งรายเดิมชื่อ "วัดคานคาด" คงจะเพี้ยนมาจากคำว่า กาละก้อด หรือได้มาจากไม้คานหามพระพุทธรูปมาคาด หรือ กร่อน จนเกือบจะนำมาใช้หามพระพุทธรูปต่อไปอีกไม่ได้ เลยสร้างวัดขึ้นตรงนั้น แล้วตั้งชื่อว่า วัดคาดคอด อดีตพระ อ.การกุย ทูลสนโย เจ้าอาวาส อธิบายว่า วัดพระเจ้าเม็งรายนี้ นอกจากจะเรียกชื่อวัดว่า วัดกาละก้อด แล้ว ยังเรียกชื่อ "วัดศรีสร้อยท้าเจ่ง"
วัดพระเจ้าเม็งราย ตามประวัติศาสตร์ สันนิษฐานว่าเป็นพระอารามหลวงแห่งที่สาม ที่พญามังรายทรงสร้างขึ้น ปัจจุบันเหลือเพียง พระพุทธรูปยืนองค์เดียวเท่านั้น เรื่องราวของพระพุทธรูปองค์นี้ปรากฏในตำนานเมืองเชียงใหม่ และ ในพงศาวดารโยนก
โบราณวัตถุสถาน
1. พระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ มีชื่อเรียกว่า พระเจ้าค่าคิงพญามังราย สูงประมาณ 540 เซนติเมตร เป็นพระพุทธรูปยืนสมัยต้นเชียงใหม่เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญองค์หนึ่ง
2. เจดีย์ทรงปราสาท มีซุ้มพระพุทธรูปยืนทั้ง 4 ด้าน
3. พระวิหารเก่า ที่เป็นที่ประดิษฐาน พระเจ้าค่าคิงพญามังราย