สถานที่ตั้ง
วัดศรีเกิดตั้งอยู่ที่ ถนนราชดำเนิน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติความเป็นมา
วัดศรีเกิดเป็นวัดโบราณเก่าแก่วัดหนึ่งในนครเชียงใหม่ วัดนี้มีฐานะเป็นพระอารามหลวง โดยวัดศรีเกิดนี้มีชื่อปรากฏในตำนานอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดพิชาราม” มาเปลี่ยนเป็นวัดศรีเกิดในสมัยของพระเจ้ากาวิละ (พ.ศ.2339)
ในปี พ.ศ. 2339 พระเจ้ากาวิละทรงเห็นว่าวัดพิชารามเป็นวัดสำคัญจึงได้โปรดบูรณะขึ้น และโดยที่วัดนี้มีต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งได้พันธุ์มาจากต้นโพธิ์ที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าที่ประเทศอินเดียว จึงให้โปรดขนานนามวัดนี้เสียใหม่ว่า วัดศรีเกิด ซึ่ง ศรี มาจากคำว่า สะหลีในภาษาเหนือที่หมายถึงต้นโพธิ์
โบราณวัตถุสถาน
1. พระเจ้าแข้งคม พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ขัดสมาธิราบ หล่อขึ้นจากสัมฤทธิ์ลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง 94 นิ้ว สูง 112 นิ้ว น้ำหนักมากถึง 3,960 กิโลกรัม พุทธศิลป์แบบล้านนา สาเหตุที่เรียกกันว่า “พระเจ้าแข้งคม” เพราะว่าพระชงฆ์ (เข่า) มีลักษณะเป็นสันยาวผิดจากพระพุทธรูปองค์อื่นๆ พระเจ้าติโลกราชทรงโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2030
วัดศรีเกิดตั้งอยู่ที่ ถนนราชดำเนิน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติความเป็นมา
วัดศรีเกิดเป็นวัดโบราณเก่าแก่วัดหนึ่งในนครเชียงใหม่ วัดนี้มีฐานะเป็นพระอารามหลวง โดยวัดศรีเกิดนี้มีชื่อปรากฏในตำนานอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดพิชาราม” มาเปลี่ยนเป็นวัดศรีเกิดในสมัยของพระเจ้ากาวิละ (พ.ศ.2339)
ในปี พ.ศ. 2339 พระเจ้ากาวิละทรงเห็นว่าวัดพิชารามเป็นวัดสำคัญจึงได้โปรดบูรณะขึ้น และโดยที่วัดนี้มีต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งได้พันธุ์มาจากต้นโพธิ์ที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าที่ประเทศอินเดียว จึงให้โปรดขนานนามวัดนี้เสียใหม่ว่า วัดศรีเกิด ซึ่ง ศรี มาจากคำว่า สะหลีในภาษาเหนือที่หมายถึงต้นโพธิ์
โบราณวัตถุสถาน
1. พระเจ้าแข้งคม พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ขัดสมาธิราบ หล่อขึ้นจากสัมฤทธิ์ลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง 94 นิ้ว สูง 112 นิ้ว น้ำหนักมากถึง 3,960 กิโลกรัม พุทธศิลป์แบบล้านนา สาเหตุที่เรียกกันว่า “พระเจ้าแข้งคม” เพราะว่าพระชงฆ์ (เข่า) มีลักษณะเป็นสันยาวผิดจากพระพุทธรูปองค์อื่นๆ พระเจ้าติโลกราชทรงโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2030