สถานที่ตั้ง
วัดหม้อคำตวงตั้งอยู่เลขที่ 119 ถนนศรีภูมิ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติความเป็นมา
วัดหม้อคำตวงมี สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.2019 เดิมชื่อ วัดหมื่นตวงคำหรือหมื่นคำตวง เพราะผู้สร้างวัดมีฐานันดรศักดิ์ “ยศหมื่น” มีหน้าที่ตีทอง หลอมทอง ถวายผู้ปกครองเมืองในสมัยนั้น ต่อมาชื่อของวัดได้เปลี่ยนแปลงไป กลายมาเป็นชื่อวัดหม้อคำตวงจนถึงปัจจุบัน ความหมายของคำว่า “หม้อคำตวง” หมายถึง หม้อทองคำสำหรับตวงเงินตวงทองนั่นเอง วัดหม้อคำตวง เป็นวัดที่มีชื่อเป็นนามมงคลวัดหนึ่งใน 9 วัด ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่
โบราณวัตถุสถาน
1. พระวิหาร เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา โครงสร้างค่อนข้างเตี้ย และหลังคาซ้อนชั้นลาดต่ำ หน้าบันประดับด้วยลายพรรณพฤกษาอ่อนช้อยสีทอง บนพื้นสีฟ้าสดใสสะท้อนแสงอาทิตย์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประธานปางมารวิชัย ฝาผนังเขียนภาพจิตรกรรมสวยงาม
2. พระเจดีย์ประธาน ลักษณะเป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมย่อเก็จ รองรับบัวถลาสามชั้น ถัดขึ้นไปเป็นองค์ระฆังขนาดเล็ก ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของเจดีย์ล้านนาในยุคหลัง ถัดจากองค์ระฆังคือบัลลังก์สี่เหลี่ยม ปล่องไฉน ยกยอดฉัตรตามแบบล้านนา
3. พระอุโบสถ ทางเข้าพระอุโบสถขนาบด้วยนาคปูนปั้น หน้าบันของพระอุโบสถหลังนี้มีปูพื้นด้วยกระจกสีฟ้าเช่นเดียวกับพระวิหารของวัด ประดับด้วยลวดลายพรรณพฤกษาสีทอง ด้านบนมีลายเทพพนมประดับอยู่ ตามความเชื่อที่ว่ามักมีเทพเทวดาลงมาฟังพระธรรมเทศนา และร่วมงานบุญของมนุษย์
วัดหม้อคำตวงตั้งอยู่เลขที่ 119 ถนนศรีภูมิ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติความเป็นมา
วัดหม้อคำตวงมี สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.2019 เดิมชื่อ วัดหมื่นตวงคำหรือหมื่นคำตวง เพราะผู้สร้างวัดมีฐานันดรศักดิ์ “ยศหมื่น” มีหน้าที่ตีทอง หลอมทอง ถวายผู้ปกครองเมืองในสมัยนั้น ต่อมาชื่อของวัดได้เปลี่ยนแปลงไป กลายมาเป็นชื่อวัดหม้อคำตวงจนถึงปัจจุบัน ความหมายของคำว่า “หม้อคำตวง” หมายถึง หม้อทองคำสำหรับตวงเงินตวงทองนั่นเอง วัดหม้อคำตวง เป็นวัดที่มีชื่อเป็นนามมงคลวัดหนึ่งใน 9 วัด ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่
โบราณวัตถุสถาน
1. พระวิหาร เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา โครงสร้างค่อนข้างเตี้ย และหลังคาซ้อนชั้นลาดต่ำ หน้าบันประดับด้วยลายพรรณพฤกษาอ่อนช้อยสีทอง บนพื้นสีฟ้าสดใสสะท้อนแสงอาทิตย์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประธานปางมารวิชัย ฝาผนังเขียนภาพจิตรกรรมสวยงาม
2. พระเจดีย์ประธาน ลักษณะเป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมย่อเก็จ รองรับบัวถลาสามชั้น ถัดขึ้นไปเป็นองค์ระฆังขนาดเล็ก ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของเจดีย์ล้านนาในยุคหลัง ถัดจากองค์ระฆังคือบัลลังก์สี่เหลี่ยม ปล่องไฉน ยกยอดฉัตรตามแบบล้านนา
3. พระอุโบสถ ทางเข้าพระอุโบสถขนาบด้วยนาคปูนปั้น หน้าบันของพระอุโบสถหลังนี้มีปูพื้นด้วยกระจกสีฟ้าเช่นเดียวกับพระวิหารของวัด ประดับด้วยลวดลายพรรณพฤกษาสีทอง ด้านบนมีลายเทพพนมประดับอยู่ ตามความเชื่อที่ว่ามักมีเทพเทวดาลงมาฟังพระธรรมเทศนา และร่วมงานบุญของมนุษย์